เทคนิคการสร้าง content ให้ปัง ให้ดัง ต้องทำอย่างไร

เทคนิคการสร้าง content ให้ปัง ให้ดัง ต้องทำอย่างไร

ข้อที่ 1 

เรารู้ใช่มั้ยว่า คนไทยส่วนใหญ่ ชอบอะไร ที่เป็น อารมณ์ (emotion )

ข้อความที่เข้าไปกระแทกใจ กระตุ้นต่อมความรู้สึกให้ทำงาน สุข เศร้า ฮาน้ำตาไหล

เสพแล้วมีอารมณ์ “อึ้ง ทึ่ง ซึ้ง เสียว ดราม่า ฮากระจาย” แบบนี้เลยถึงจะดี เพราะมันเข้าถึงคนง่าย 

ไม่ว่าภาพตัวอักษร ภาพเคลื่อนไหว มักถูกไลค์ถูกแชร์ถล่มทลาย

พวกเราเคยดู โฆษณา ของประกันชีวิตมั้ยฮะ..แบบนั้นเลย 

ดูแล้วให้ปาดน้ำตากันทีเดียว คือStory ได้ชวนดูมาก เหมือนกัน content เราจะมีการดูก็เพราะเรื่องมันน่ากดเข้าไปดู

.

Trend ทุกวันนี้บอกเลย..เน้น Emotions กระตุ้นอารมณ์ให้ผู้บริโภคด้วยความอยาก

เล่าเรื่องแบบ Storytelling คล้ายเรื่องเล่า ร้อยต่อกัน เข้าไปฮุกต่อมอารมณ์ร่วม ให้คนดูสนใจ

เกิดการจดจำเรื่องราวนั้น ..ดังนั้น บอกเลยนะ คุณจะต้องสร้างสิ่งที่ผู้อ่านต้องการเห็น

สิ่งที่พวกเขาสนใจและเป็นประโยชน์ แทนที่จะไปสร้างแต่สิ่งที่ใคร ๆ ก็เบื่อหน่าย อวดอ้างโฆษณาชวนเชื่อ

เนื้อหาต้องมี “คุณค่า” อยู่ในเนื้อแท้ของมันเอง ที่ผู้อ่าน ผู้ฟัง ผู้ชมดูแล้วจิ๊ด ซี้ด ซ้าด


2. content ให้ความรู้ ....หรือ How to?

.

ให้ความรู้ สอนอะไรบางอย่าง ให้คนสามารถนำไปปรับใช้ได้จริง

แบ่งปันสิ่งดี ๆ Content แบบนี้จะขยายวงกว้าง

จงจำไว้เลยนะว่า ให้เล่าเรื่องที่คน "อยากฟัง" "อยากอ่าน" ไม่ใช่อะไรที่ "อยากบอก ”

แล้ว Content จะปังมาก จะกลายเป็น Content ที่มีคุณค่า (Value content)

เช่น บอกเคล็ดลับวิธียิง หัวข้อ ให้โดน เช่น "วิธีการหาเงินล้านแบบใหม่ ใน style คนชอบเล่น social" ไรแบบนี้ 

สร้างเนื้อหาดี ๆ มีประโยชน์กับกลุ่มเป้าหมาย จนเขาประทับใจจนรู้จักแบรนด์ จดจำเรา

ไม่ว่าเป็นบทความ รูปภาพ วิดีโอ อะไรก็ได้ที่ทำให้เขาได้ประโยชน์รับความรู้

เค้าจะรู้สึกประทับใจ บอกต่อ…สามารถสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อ Brand

เป็นไรที่แบบว่า สร้างคุณค่าาาาาาา

3.แก้ปัญหา

.

สร้างสรรค์ Content จากปัญหาและความเจ็บปวดของคนทั่วๆไป เช่น ปัญหาความอ้วน

เนื้อหาที่เราต้องครีเอทออกมาพวก “10 วิธีผอมไม่ต้องอดก็ลดได้” “5 เมนูคลีนเพื่อสุขภาพ”

แล้วคุณลองสังเกตดู อะไรที่เป็นปัญหาแล้วโดนใจคน โอกาสแชร์ต่อ จนเกิดเป็น ไวรัล แม่งสูงมาก

วิธีการช่วยบรรเทาอาการอกหัก

การสร้าง content แบบการแก้ปัญหา โอกาสในการแชร์ต่อมีสูงมาก

ปัญหาการทำงานกับเพื่อนร่วมงาน 

ปัญหาการมีบุตรยาก 

ปัญหาเยอะแยะมากมายที่คนไทยมี

4. ให้ไอเดีย idea

.

สร้างวิดีโอ ทำคลิปหรือเป็นภาพข้อความ

เช่น ไอเดียจากของเหลือใช้ในบ้าน หรือไอเดียการประดิษฐ์

แปลงสิ่งของเหลือใช้ ไอเดียทาสี ไอเดียอะไรก็ได้

ที่เหมาะกับเพจของเรา เป็นประโยชน์กับผู้คนส่วนมาก…

ยอดปัง แชร์อลังการเลยฮะ

บ้านเราไม่ค่อยมีใครทำกันเท่าไร แต่ต่างประเทศนี่ผมเห็นหลายคลิปเลยที่ปล่อยลง YouTube

ยอดวิวยอดแชร์ดีงามมาก เช่น 10ไอเดียแปลงไม้แขวนเสื้อให้เป็นของใช้

ผมว่าโอนะ..คือมันมีประโยชน์กับผู้คนทั่วไปไง ดูแล้วทำตามได้..ใช้ได้จริง

มันเป็นการกระตุ้นความคิดให้ผู้คนเห็นประโยชน์

Content แบบนี้ช่วยเปลี่ยนยอดชมให้เป็นยอดซื้อได้ดีเลยนะ

บางคนขายไอ้ที่ม้วนผมสำหรับผู้หญิง ปล่อย Video สร้างทรงผมใหม่ ๆ ทำง่ายที่บ้าน

แล้วก็เอาสินค้าตัวนั้นมาขาย คนดูอยากได้เว้ย ก็สั่งของซื้อตาม..ดีงามออก

5. สร้างแรงบันดาลใจ

.

พวกคำคมแนวคิดกำลังใจ ผมเห็นปังหลายคน บางคนสร้างแบรนด์จนเกิดสัมมนาได้เลย

คือมันเข้าถึงได้ทุกเพศทุกวัยไง แต่ถ้าโฟกัสเจาะกลุ่มจัง ๆ ไปเลย ปังง่ายไม่ยาก

วัยรุ่น วัยทำงาน รัก เรื่องงาน คือโฟกัสให้เด่นไปสักเรื่อง

หว่านแหไปหาคำคมโดน ๆ ตรงเป้ายากครับ จะเล่นคนอกหัก คนทำงาน หรืออะไรก็ว่าไป

ฮุกตรงเป้าและหมัดแม่งหนักกว่า แค่ทำข้อความดี ๆ โดน ๆ สั้น ๆ กระชับได้ใจความ

เสริมน้ำหนักด้วยภาพ ให้หยุดสตั้น หันมา "คลิก"

ทำได้ดี ทำได้โดน ผมเห็นทำ view กัน ถล่มทลายยย

.

ถ้าอยากให้โพสขายของ ของคุณดูไม่น่าเบื่อ ให้มันเป็นมากกว่าโพสขายของ

สร้างคุณค่าให้กับมัน แล้วมูลค่าจะตามมา ให้เนื้อหาสาระของตัวมัน ขายตัวมันเองได้

ทำเนื้อหาออกมา แบบที่ลูกค้าเห็นแล้วตกลงใจซื้อ บริการนั้นทันที

ทุกอย่างที่เป็นแรงบรรดาลใจ มาจากเราใส่คุณค่าลงไปcontent ที่ไม่มีคุณค่า เร าก็ต้องสร้างใหม่เรื่อยๆ แต่ถ้ามันมีคุณค่า มันจะติดบน net นานมาก

__________________________

และสิ่งสำคัญอย่างสุดท้าย เมื่อเราสร้าง Content ได้แล้วควรนำไปโพสต์ที่ไหน

     ถ้าคุณจะจับปลาคุณต้องจับในที่มีปลาใช้หรือไม่ ผมแนะนำว่าให้คุณนำ Content ที่เราสร้างนั้นไปโพสต์ที่อื่นด้วย ให้ตรงกับหัวเรื่องหรือสิ่งที่เราต้องการนำเสนอ อย่างเช่นถ้าคุณสร้างเรื่องเกี่ยวกับการทำอาหาร คุณก็ควรเอา Content ของคุณไปโพสต์กับกลุ่มเพจเรื่องการทำอาหาร หรือเว็บบอร์ดที่เกี่ยวกับการทำอาหารด้วยก็ได้ ไม่ใช้แค่โพสต์ที่เพจหรือ facebook อย่างเดียว เพราะบางทีเพจของเราอาจมีคนติดตามน้อยหรือเพือนของเราอาจจะไม่ได้สนใจเรื่องการทำอาหารก็ได้ ซึ่งมันไม่มีปลาให้เราจับ เราควรจับในที่ๆมีปลาอยู่