ทุก ๆ คนเคยจำได้มั๊ยครับว่า สินค้าชิ้นหนึ่ง ก่อนการซื้อจะผ่านกระบวนการอะไรบ้าง ถ้าจำไม่ได้เรามาทบทวนกันหน่อย
นักการตลาดได้มีการวิเคราะห์และทำเป็นทฤษฎีเรื่องกระบวนการตัดสินใจซื้อว่ามีขั้นตอนทั้งหมดดังนี้คือ
1. การรับรู้ถึงความต้องการสินค้านั้น ๆ
2. การแสวงหาข้อมูลสินค้านั้น ๆ
3. การประเมินทางเลือก
4. การตัดสินใจซื้อ
5. พฤติกรรมหลังการซื้อ
หากมองจากกระบวนการนี้ กระบวนการที่สำคัญในช่วงการซื้อคือ 3 กระบวนการแรก ซึ่งหากมองเป็นตัวเรา ตอนที่จะซื้อสินค้าจริงๆ แล้ว ปกติเรามีความต้องการสินค้าในวัน ๆ หนึ่งเยอะมาก แต่มีสินค้าเพียงไม่กี่ชิ้นที่เราอยากจะได้จริง ๆ แล้วเริ่มค้นหาข้อมูล ซึ่งจุดที่ Google ยอู่คือ จุดค้นหาข้อมูลและประเมินทางเลือก แปลว่าหากเราค้นหาข้อมูล Google แปลความหมายว่าคุณอยากได้ของชิ้นนั้นจริง ๆ แล้ว และ Google ก็จะแสดงผลข้อมูลสินค้าที่คุณต้องการมาให้คุณเลือก เพื่อให้คุณประเมินทางเลือกต่อไป แต่กับ Facebook เค้าบอกว่าโฆษณาเค้าจะเป็นในส่วนของขั้นตอนการต้องการสินค้านั้น ๆ แต่ยังไม่คิดซื้อ Facebook มองในมุมเหมือนเราซื้อเสื้อผ้าครับ เราอยากซื้อทุกวัน แต่เราซื้อก็ต่อเมื่อเราเห็นสินค้าพอดี ซึ่ง Facebook มองว่าความต้องการแบบนี้มีอยู่เยอะมาก แค่เราโฆษณาสินค้าเราให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย เราก็จะสร้างยอดขายได้เช่นกัน
ทีนี้หากมองทั้งสองสื่อ สื่อที่มีประสิทธิภาพมากกว่าย่อมเป็น Google เพราะ Google แสดงผลโฆษณาสินค้าคุณในวันที่คนสนใจสินค้าคุณมาก จนค้นหาข้อมูลจริง ๆ ส่วน Facebook จะแสดงโฆษณาสินค้าคุณ ให้ตรงกับคนที่คุณคิดว่าคุณจะขายได้ แล้วพอเค้าเห็นโฆษณา เค้าก็จะสนใจคุณ แต่สิ่งที่ Facebook มีแล้วแตกต่างจาก Google คือ Facebook โฆษณาในกลุ่มคนที่มีปริมาณมากกว่า Google ซึ่งหากเราทำโฆษณาได้ดีพอ เราก็ย่อมมีสิทธิที่จะขายสินค้าได้ดีไม่แพ้ Google เช่นกัน แถมทำโฆษณากับ Facebook ยังได้โฆษณาแบรนด์เราเสียด้วย
สื่อออนไลน์เหมือนกัน แต่ขายในจุดที่แตกต่างกัน ส่วนสื่อไหนเหมาะกับใคร อันนี้ต้องลองพิจารณากันดูนะครับ
รับทำโฆษณาติดหน้าแรกบนกูเกิ้ล
หน้าที่เข้าชม | 199,877 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 160,792 ครั้ง |
เปิดร้าน | 30 พ.ย. 2559 |
ร้านค้าอัพเดท | 6 ก.ย. 2568 |